Sunday, March 2, 2008

Examination paper

1. เมื่อต้องการปรับแสงไปยังวัตถุที่ศึกษาในกล้องจุลทรรศน์ ควรปรับที่ส่วนประกอบใดของกล้องจุลทรรศน์

ตอบ ก. Iris diaphragm (ไดริสไดอะแฟรม)

ข. Condenser (คอนเดนเซอร์)



2. ภาพที่เกิดขึ้นครั้งแรกจากการขยาย ของเลนส์ใกล้วัตถุ เกิดที่ส่วนใดของกล้องจุลทรรศน์

ตอบ เลนส์ใกล้วัตถุ ( objective lens)



3. ภาพสุดท้ายของวัตถุที่มองเห็นจากกล้องจุลทรรศน์จะเกิดห่างจากตา 10 นิ้ว เนื่องจาก body tube มีความยาวเท่าใด

ตอบ 160 mm.



4. ก. เลนส์ใกล้วัตถุที่มีกำลังขยายยิ่งสูง จะมีระยะการทำงานของเลนส์ยิ่ง สั้นลง

ข. ค่าที่บอกถึงขนาดที่เล็กที่สุดที่กล้องจุลทรรศน์สามารถแยกรายละเอียดได้คือ ความสามารถของระบบเลนส์หรือกล้องจุลทรรศน์ ที่จะแสดงหรือแยกรายละเอียดได้ ( resolving power หรือ resolution [r] )



5. ก. เมื่อต้องการหาระยะการทำงาน(ระยะโฟกัส) ของเลนส์ใกล้วัตถุ ควรใช้ส่วนประกอบใดของกล้องจุลทรรศน์

ตอบ coarse adjustment knob (วงล้อหยาบ)

ข. การใช้ immersion oil กับเลนส์ใกล้วัตถุกำลังขยาย 100 เท่า เพื่อ ลดการหักเหของแสง หรือ ป้องกันการหักเหของแสง จะช่วยให้เลนส์มีประสิทธิภาพดีขึ้น (N.A. เพิ่มขึ้น)

ค. เมื่อต้องการหาระยะการทำงานของเลนส์ใกล้วัตถุให้ละเอียดยิ่งขึ้น ควรใช้ส่วนประกอบใดของกล้องจุลทรรศน์

ตอบ fine adjustment knob (วงล้อละเอียด)



.....................................................................................



6. ข้อใดที่มีการเรียงลำดับขั้นตอนการจัดการตัวของ โครงสร้างร่างกายสัตว์ถูกต้องที่สุด

ตอบ 4. เซลล์ เนื้อเยื่อ อวัยวะ ระบบ รูปร่าง



7. จากห้องปฏิบัติการเนื้อเยื่อสัตว์ อวัยวะที่มีโครงสร้างของเนื้อเยื่อชนิดนี้คือ

ตอบ ลำใส้เล็ก



8. รูปที่เห็นเป็นเซลล์ของ

ตอบ กล้ามเนื้อเรียบ



9. รูปที่เห็นนี้เป็นการจัดตัว เป็นระบบฮาร์เวอร์เชียน(Harversian system) ของเซลล์ใด

ตอบ 1. Osteocyte (เซลล์กระดูก p.60 )



10. เนื้อเยื่อที่ประกอบขึ้นด้วยเซลล์ชนิดนี้ทำหน้าที่เกี่ยวกับอะไร (รูปเซลล์ประสาท)

ตอบ การรับสัมผัส



......................................................................................

Chemistry of Life



11. ก. จากการทดลองคาร์โบไฮเดรทที่เป็น Polysaccharide คือ แป้ง (strach )

ข. การทดสอบ Polysaccharide โดยใช้ I2/KI ( สารละลายไอโอดีนที่ละลายในสารพอแทสเซียมไอโอไดน์ ) p.79



12. คุณสมบัติของ Polysaccharide จะถูกทำลายได้โดยใช้ กรดไฮโดรคลอริก (HCl) และ ความร้อน p.79



13. ก. โปรตีนที่ใช้ในการทดลองคือ น้ำตับบด

ข. สารที่มี peptide linkage จะให้สารละลายสี ม่วง กับ Biuret reaction

p.80



14. ก. โปรตีนละลายได้ดีใน NaOH (โซเดียมไฮดรอกไซด์ )

ข. เมื่อนำโปรตีนไปต้ม โปรตีนจะเปลี่ยนสภาพเป็น ตะกอน (โปรตีนจับเป็นก้อน)

p.82



15. ก. ไขมันละลายได้ดีใน CCl4

ข. ไขมันไม่ละลายใน H2O , ethanol

p.83



....................................................................................



เรื่อง Enzyme



16. เมื่อ enzyme catalase ทำให้ H2O2 2 โมเลกุล แตกตัวโดยปฏิกิริยา oxidation และ reduction จะได้สารอะไร

2H2O2 -------> 2H2O + O2
ก. 2H2O
ข. O2

17. สารที่ใช้ทดสอบหาปริมาณ H2O2 ที่เหลือจากการทดลองในห้องปฏิบัติการมีชื่อและสูตรทางเคมีเป็นอย่างไร
ตอบ ก. โปแตสเซียมเปอร์แมงกาเนส




ข. KMnO4




18. จากการทดลองในห้องปฏิบัติการสารที่ทำให้ enzyme catalase หยุดการทำงานได้มีชื่อและสูตรทางเคมีอย่างไร



ตอบ ก. กรดซัลฟิวริกส์



ข. H2SO4




19. ในการทดลองเรื่อง enzyme catalease พบว่า enzyme ทำงานได้ดีที่สุดที่อุณหภูมิและ pH ใด



ตอบ ก. อุณหภูมิ 30 c



ข. pH 7




20. จงบอกชื่อของสารที่สามารถ inhibit(ยั้บยั้ง) การทำงานของ enzyme catalease ได้



ตอบ ก. โซเดียมเอไซด์ (Sodium aside)



ข. โซเดียมฟลูโอไรด์ (Sodium fluoride)







.........................................................................................................................................................................







การแบ่งเซลล์




21. ผลที่สำคัญที่ได้จากการแบ่งเซลล์คือ



ตอบ 1. จำนวนเซลล์ที่เพิ่มขึ้น มีการถ่ายทอดพันธุกรรมจากเซลล์แม่ไปยังเซลลูก

22. ในการแบ่งเซลล์แบบไมโตซีส จำนวนโครโมโซมของเซลลูกและเซลแม่เป็นอย่างไร



ตอบ 2. เซลล์ลูกมีโครโมโซมเท่ากับเซลล์แม่

23. ถ้าสัตว์หรือพืชที่มีจำนวนโครโมโซมเป็นเลขคี่ จะมีผลอย่างไร



ตอบ 3. สัตว์หรือพืชนั้นมีโอกาสเป็นหมันสูง




24. ระยะใดของการแบ่งเซลล์แบบไมโตซีสที่ใช้เวลานานที่สุด



ตอบ 1. ระยะโปรเฟส

25. คนแก่อายุ 70 ปี มีเซลล์ส่วนใดที่ยังสร้างใหม่



ตอบ 4. เซลล์ในโพรงกระดูกี่สร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง




.....................................................................................







การสังเคราะห์แสง




26. ในการทดลองเรื่องการสังเคราะห์แสง , ท่าเป่าอากาศลงในสารละลายในหลอดทดฃอง เพื่ออะไร



ตอบ 3. เพิ่ม CO2 ในสารละลาย

27. ในการทดลองเรื่องการสังเคราะห์แสง , ท่านใช้สารอะไร เป็น indicator ( สารที่เติมลงไปแล้วเปลี่ยนสีเมื่อค่า pH เปลี่ยน



ตอบ 2. Phenol red




28. เราใช้สารอะไรทดสอบแป้งในใบพืช



ตอบ 2. I2 ละลายใน KI soln.

29. ในการทดลองเรื่อง paper chromatography รงควัตถุสีอะไรขึ้นได้สูงสุดบนกระดาษกรอง



ตอบ 3. สีเหลือง

30. จุดประสงค์หลักของการต้มใบพืชในแอลกอฮอล์ เพื่ออะไร



ตอบ 4. ทำให้รงควัตถุละลายออกจากเซลล์พืช




...................................................................................







การเจริญและการสืบพันธุ์




31. ก. เนื้อเยื่อนี้เรียกว่า fertilization membrane
ข. เนื้อเยื่อจากข้อ ก. มีหน้าที่อะไร



ตอบ ป้องกันไม่ให้อสุจิตัวอื่นเข้าไปผสมกับไข่ได้




32. ก. เซลล์นี้เรียกว่า cleavage cell หรือ blastomere



ข. เอ็มบริโอในระยะนี้เรียกว่า creavage state

33. ก. ช่องว่างนี้เรียกว่า blastocoele



ข. เอ็มบริโอในระยะนี้เรียกว่า blastula state

34. ก. ช่องว่างนี้เรียกว่า gastrocoel หรือ archenteron



ข.ช่อง(บริเวณ) ที่เซลมาชนกันแล้วยุบเข้าไป เรียกว่า blastopore (บลาสโตพอร์)

35. ก. ตัวอ่อนนี้เรียกว่า young bipinnaria larva



ข. เป็นตัวอ่อนของสัตว์พวก ดาวทะเล




.....................................................................................







เนื้อเยื่อสัตว์




36. ก. เนื้อเยื่อพืชรูปทรงที่เห็น เป็นเนื้อเยื่อประเภทใด



ตอบ parenchymm (พาเรงคิมา)
ข. สังเกตทราบได้อย่างไร



ตอบ มีช่องว่างระหว่างเซลล , สังเกตจากรูปร่างของเซลล์




37. ก. เป็นภาคตัดขวางของรูปร่างใดของพืช



ตอบ ลำต้น



ข. เป็นพืชชนิดใด



ตอบ พืชใบเลี้ยงคู่

38. ก. เนื้อเยื่อบริเวณปลายรากอ่อน ประกอบด้วยเนื้อเยื่ออะไร



ตอบ เนื้อเยื่อเจริญ (meristematic tissue หรือ meristems )

39. ก. เป็นภาคตัดขวางของโครงสร้างใดของพืช



ตอบ ราก (ของพืชใบเลี้ยงเดี่ยว)



ข. สังเกตทราบได้อย่างไร



ตอบ มีท่อลำเลียงกระจายอยู่ภายนอก

40. ก. เป็นเนื้อเยื่อประเภทใด



ตอบ เนื้อเยื่อผิว ( epidermis )



ข. พบในใบของพืชกลุ่มใด



ตอบ พืชใบเลี้ยงคู่ , พืชใบเลี้ยงเดี่ยว พืชบนบก







...................................................................................




41. ก. พืชที่เห็นในภาพนี้มีชั่วรุ่น (generation) ใดเด่น



ตอบ แกมีโทไฟต์
ข. ทำไมพืชกลุ่มนี้ไม่เป็นใบและลำต้นที่แท้จริง



ตอบ ไม่มีท่อลำเลียง




42. ก. ลักษณะเป็นเม็ด 3 พู คือ sporangium



ข. มีหน้าที่ เป็นอวัยวะสร้างสปอร์

43. ก. พืชทั้งสองภาพนี้สร้างอวัยวะผลิตสปอร์ ปลายกิ่ง เรียกเป็นศัพท์เทคนิคว่า



ตอบ stobilus



ข. พืชซ้ายมือจัดอยู่ในหมวด (Division) ใด



ตอบ Arthrophyta

44. ก. อวัยวะพืชที่ขยายโครงสร้างให้เห็นนี้เรียกว่า



ตอบ stobilus



ข. พบในพืชกลุ่มใด



ตอบ coniferophyta

45. ก. รังไข่จัดอยู่ในชั้นหรือวงใดของดอก



ตอบ วงที่สี่
ข. รังไข่จะพัฒนาเป็นอวัยวะใดของพืช



ตอบ ผล







....................................................................................







การหายใจ




46. การทดลองเรื่องการหายใจ จงตอบคำถาม



1.1 Substrate ของขบวนการหายใจ คือ กลูโคส



1.2 Glycolysis เกิดขึ้นที่ส่วนใดของเซลล์ยีสต์ ตอบ ไซโทรพลาสซึม

47. ฟองก๊าซที่เกิดขึ้นในการทดลองเรื่องการหายใจ



1.1 คือก๊าซอะไร ตอบ คาร์บอนไดออกไซด์ (CO2)



1.2 เกิดขึ้นในขั้นตอนใดของขบวนการหายใจ ตอบ Krab's cycle

48. สารที่ทำหน้าที่ยั้บยั้งขบวนการหายใจได้แก่


ตอบ 1. โซเดียมเอไซด์ (sodium aside) NaN3


2. โซเดียมฟลูโอไรด์ (sodium fluoride) NaN3

49. เหตุใด methylene blue จึงมีสีจางลง (ในการทดลองเรื่องการหายใจ)


ตอบ เพราะ methylene blue ทำหน้าที่รับ ไฮโดรเจน หรือ อิเล็กตรอน => จากสภาวะที่มีการหายใจ methylene blue จะทำหน้าที่เป็นตัวรับไฮโดรเจน หรือ อิเล็กตรอน จึงถูกเปลี่ยนสภาพซึ่งสังเกตุได้จากการหายไปของสีน้ำเงินโดย โทนสีของ หรือ อัตราการหายไปของสี ขึ้นอยู่กับความเข้มและประสิทธิภาพของสารยั้บยั้ง

50. พลังงานจากขบวนการหายใจเกิดขึ้นมากที่สุดในขบวนการใด


ตอบ วัฏจักรเครบส์ (Kreb's cycle หรือ citric acid cycle)





......................................................................................





kingdom protista

51. ก. สิ่งมี ชีวิตที่เห็นในภาพคือ แบคทีเรีย ( bacteria )

ข. ดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยการ ย่อยสลายสารอินทรีย์ , อาศัยสิ่งมีชีวิตอื่น

52. ก. สิ่งมีชีวิตที่เห็นในภาพคือ พารามีเซียม (paramecium)

ข. เคลื่อนที่ได้โดยใช้ ขน (cilia)

53. ก.สิ่งมีชีวิตที่เห็นในภาพคือ diatom

ข.เมื่อมีชีวิตอยู่สังเคราะห์แสงได้หรือไม่ ตอบ ได้


54. ก. สิ่งมีชีวิตที่เห็นในภาพ สืบพันธ์โดย วิธีการสร้างสปอร์

ข. สามารถสังเคราะห์แสงได้หรือไม่ ตอบ ไม่ได้


55. ก. สิ่งมีชีวิตที่เห็นในภาพคือ ไลเคน (lichen)

ข. มีชีวิตอยู่แบบ พึ่งพา (Symbiosis) ระหว่าง เชื้อรา ( ทำหน้าที่ดูดซับความชื้น) กับ สาหร่าย ทำหน้าที่สังเคราะห์แสง


.....................................................................................



อณาจักรสัตว์


56. ก. ปะการังจัดอยู่ใน class Anthozoa

ข. สัตว์ที่อยู่ใน class เดียวกันคือ กัลปังหา ,ดอกไม้ทะเล

57. ก. สัตว์ชนิดนี้จัดอยู่ใน class Amphineura ได้แก่ ลิ้นทะเล
ข. อาศัยอยู่บริเวณ นำทะเล

58. ก. สัตว์ชนิดนี้จัดอยู่ใน class Diplopoda (กิ้งกือ)
ข. มีอวัยวะขับถ่ายเรียกว่า mulpighin tubules

59. ก. ปลาฉลามจัดอยู่ใน class Chondrichthyes
ข. ปลาทูจัดอยู่ใน class Osteichthyes

60. สัตว์ใน class Mamalia ที่อาศัยอยู่ในน้ำ คือ
ตอบ ก. Orde Cetacea เช่น ปลาวาฬ , ปลาโลมา
ข. Order Sirenia เช่น พะยูน และ วัวทะเล